หลักการเลือกที่นอนยางพารา ให้เข้าคู่กับ หมอนขนเป็ด ของคุณ เพื่อการนอนอย่างมีคุณภาพ

หมอนขนเป็ด

สวัสดีทุกท่าน วันนี้เรากลับมาพบกันอีกแล้วกับแอดมินเว็บ หมอนขนเป็ด ในวันนี้เรามีวิธีเลือกที่นอนยางพารา มาให้ทุกท่านได้ อ่านกัน

สำหรับใครที่กำลังจะเปลี่ยนที่นอนใหม่ แอดมิน เว็บ หมอนขนเป็ด คิดว่าที่นอนยางพารานั้นก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน เพราะว่า ที่นอนยางพารา เหมาะกับ ผู้ที่ชอบที่นอนที่ค่อนข้างแข็ง ทำให้รับสรีระได้ดี และ ไม่ทำให้เราจมลงไปกับที่นอนมากนัก

หมอนขนเป็ด

แถมที่นอนยางพารา ยังมีอายุการใช้งานค่อนข้างยาวนาน กว่า ที่นอนแบบอื่นๆ  แถมยังไม่ค่อยเป็นที่สะสมของพวกฝุ่นและเชื้อโรคเท่าไรนัก ส่วนวิธีการเลือกใช้ที่นอนยางพารามีอะไรบ้างนั้นไปอ่านกันเลย

น้ำหนักควรอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม

ที่นอนยางพาราที่ดีต้องไม่หนักจนเกินไป อย่างน้อยต้องยกมุมด้านใดด้านหนึ่งได้สบาย หากที่นอนเบาเกินเหตุ อาจตั้งข้อสังเกตได้ว่าเป็นโฟมหรือพอลิยูรีเทน แต่หากหนักเกินไป อาจเป็นโฟมยางอัดเหลือใช้ขึ้นรูปใหม่ด้วยการอัดกาว สำหรับวิธีเทียบน้ำหนักยางพารามีสูตรง่ายๆ คือ ใช้ขนาดกว้างยาว และหนา (หน่วยเป็นเซนติเมตร) มาคูณกัน แล้วหารด้วย 1,000,000 จากนั้นคูณด้วยค่า Density หรือหน่วยแทนค่าความหนาแน่นของยางพาราแท้ซึ่งโรงงานบอกมา จะได้น้ำหนักจริงๆ ของยางพารา

ความหนาแน่นและความนุ่ม

สอบถามค่า Density จากผู้ขาย เพราะสามารถบอกได้ว่าที่นอนนั้นมีค่าความหนาแน่นมากหรือน้อย โดยค่าปานกลางอยู่ที่ Density 85

ลักษณะของผิวยางและความยืดหยุ่น

สามารถพับทบได้ เมื่อดึงกลับก็จะคืนรูปอย่างรวดเร็ว โดยปกติที่นอนยางพารา จะไม่ทำหนามาก ส่วนมากจะเป็นแผ่นทบข้างบน ของใส้ในจริงๆอีกที ซึ่ง ถ้าเป็นที่นอนยางพาราที่ดีจริงๆ ไม่ควรพับแล้วไม่คืนรูป

กลิ่น

หากลองดมดูจะได้กลิ่นอ่อนๆ แบบธรรมชาติของยาง กลิ่นคล้ายวานิลลานิดๆ ไม่ใช่กลิ่นสารเคมี แสบจมูก

ข้อควรรู้ก่อนจะตัดสินใจซื้อที่นอนยางพารา

มีคนเคยบอกว่า ต้องหมั่นกลับที่นอนทุกเดือนเพื่อการใช้งานที่ยาวนานแต่ที่นอนยางพาราอาจไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น เพราะนอกจากน้ำหนักที่มากแล้ว ที่นอนชนิดนี้ยังออกแบบมาเพื่อระบายอากาศได้เอง และยางพาราก็มีคุณสมบัติไม่เก็บความชื้นและไม่สะสมแบคทีเรีย จึงไม่จำเป็นต้องกลับด้านบ่อยๆ ที่สำคัญ อย่านำไปตากแดดจัดเด็ดขาด เพราะอาจได้ก้อนยางแข็งๆ กลับมาแทน

ที่นอนยางพาราแบบผสมเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำให้ราคาที่นอนยางพาราถูกลงและมีน้ำหนักเบากว่า แต่ข้อเสียคือ การใช้งานจะไม่ยาวนานเท่ายางพาราแท้ และบางครั้งอาจยุบตัวได้เร็วกว่าด้วย

สิ่งที่ควรรู้เบื้องต้นของที่นอนยางพารา

เนื่องจากที่นอนยางพารามีราคาสูง ทำให้ผู้ผลิตบางรายใช้กลโกงโดยอาจใช้โฟมยางสังเคราะห์หรือโฟมอัดมาแทรกไปกับยางพารา หรือใช้เป็นไส้อยู่ด้านใน แล้วปิดล้อมรอบด้วยยางพาราจริงๆ แนะนำให้ซื้อที่นอนจากผู้ผลิตที่ไว้ใจได้ สำหรับกระบวนการผลิตในไทยส่วนใหญ่จะเป็นแบบ DunlopProcess นำสารเคมีมาผสมกับโฟมยางพาราจนกลายเป็นครีมเหลว จากนั้นนำมาเทลงแบบหล่อ แล้วอบด้วยความร้อนจนยางสุก จึงนำไปผ่านกระบวนการทำความสะอาดจนสารเคมีหมดไป ส่วนใครชอบเทคโนโลยีทันสมัย จะเลือกใช้ของนำเข้าก็ไม่ว่ากัน เป็นกระบวนการผลิตแบบ Tatalay Process จะใส่น้ำยางที่ผสมแล้วเทเข้าแม่พิมพ์ แล้วดูดอากาศในแม่พิมพ์ออก น้ำยางจะพองตัวขึ้นจนเต็มแม่พิมพ์ แล้วจึงนำไปแช่แข็ง จากนั้นอบด้วยความร้อนอีกครั้ง ทั้งสองวิธีนี้จะได้โฟมยางพาราเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความชอบและความสบายส่วนตัว

ยางพารามีความพรุนจึงช่วยระบายอากาศได้ดี แถมยังไม่เก็บกักฝุ่น แต่หากใครกลัวเรื่องไรฝุ่น แนะนำให้ซื้อผ้าปูที่นอนชนิดป้องกันไรฝุ่นมาใช้ควบคู่กัน พร้อมกับหมั่นนำผ้าปูที่นอนไปซักหรือผึ่งแดดบ่อยๆ

ที่นอนบางยี่ห้อจะบอกข้อมูลเรื่องการรองรับสรีระว่าสามารถรองรับได้ 7 จุด ข้อดีคือ ทำให้เห็นความแตกต่างจากที่นอนสปริงและที่นอนประเภทอื่นๆ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของผู้นอนด้วย ปัญหาเรื่องสรีระ เช่น ปวดหลัง หากน้ำหนักตัวมาก ควรเลือกที่นอนที่มีความนุ่มให้พอดีกัน เพราะที่นอนที่มีความนุ่มและยืดหยุ่นก็ทำให้ความสบายในการนอนแตกต่างกันไป

ราคาที่นอนยางพาราไม่ใช่ถูกๆ ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อควรทดลองนอนดูสักประมาณ 20 นาที หรือนานกว่านั้นก็จะดีมาก เพราะจะทำให้สรีระของเราเริ่มเข้ารูปกับที่นอน จากนั้นก็จะทราบเองว่าที่นอนแบบนี้เหมาะกับเราหรือไม่

เลือกที่นอนยางพาราชนิดที่สามารถถอดผ้าหุ้มออกไปซักได้ที่สำคัญ ทำให้เราสามารถตรวจสอบได้ว่า ที่นอนนั้นเป็นยางพาราแท้ทั้งชิ้นหรือไม่

ในการเลือกที่นอนยางพาราที่มีคุณภาพ ควรมีข้อสังเกตุดังนี้

ให้สังเกตค่า Density ที่เหมาะสม เช่น Density 110มีความแน่นสูง เหมาะกับผู้สูงอายุ Density 85 เหมาะกับสรีระคนทั่วไป รวมถึงไซส์คนเอเชียและคนไทยDensity 65 เหมาะกับผู้มีน้ำหนักตัวมาก

หากมีปัญหาเรื่องการนอน เช่น ปวดหลังหรือเป็นแผลกดทับควรเลือกรุ่นให้เหมาะตามค่า Density ของยาง ไม่ควรนอนที่นอนแข็งหรือนิ่มเกินไป

ราคาของที่นอนเป็นข้อสังเกตอีกอย่างว่าเป็นยางแท้ หากความหนา 8 นิ้วขึ้นไป ราคาไม่ควรถูกกว่า 20,000 บาท

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็น ขั้นตอนง่ายๆของการเลือกซื้อที่นอนที่ผลิตจากยางพารา และ นอกจากที่นอนที่ดีแล้วเรายังต้องมีหมอนดีดี ควบคู่ไปด้วย ถ้าใครกำลังมองหาหมอนใบใหม่ที่รับกับสรีระคอของเราอยู่ล่ะก็ สามารถติดต่อที่หน้าเว็บของเราได้เลยเพราะ ทางเรามี หมอนขนห่าน คุณภาพดี ให้เลือกซื้อหากัน

ขอบคุณเว็บเพื่อนบ้านดีดี อย่าง TheTrainerThailand สำหรับข้อมูลดีดี ในครั้งนี้